เมื่อพบว่าน้องหมาหรือน้องแมวเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวแล้ว โดยทั่วไปจะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้
แต่ควรมีความเข้าใจและดูแลอย่างเหมาะสม เพื่อสามารถทำให้น้องมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
·
สังเกตความอยากอาหาร ควรรักษาน้ำหนักตัวให้คงที่
ไม่ควรน้ำหนักลดลงเรื่อยๆ
·
สังเกตปริมาณการกินน้ำ และปัสสาวะ
หากมีการเปลี่ยนแปลงหรือพบความผิดปกติเกิดขึ้น อาจบ่งชี้ถึงผลข้างเคียงจากการให้ยาขับน้ำ
หรือ อาการหัวใจล้มเหลวทรุดลง หรือ การแทรกซ้อนอื่นๆ ที่เกิดจากโรคหัวใจ เช่น
โรคตับ โรคไต
·
สังเกตอัตราการหายใจ
โดยมีการนับอัตราการหายใจในช่วงพักหรือหลับ นับจำนวนครั้งการหายใจใน 1 นาที
ปกติน้อยกว่า 30-40 ครั้งต่อนาที
หากมีการเพิ่มขึ้นหรือมีอาการต่อเนื่องไปอีก 2 -3 วัน
อาจมีภาวะน้ำท่วมปอดได้
ยาโรคหัวใจ
·
ควรทำการให้ยาตรงตามเวลา และ
ก่อนหรือหลังอาหารตามฉลากยาอย่างเคร่งครัด
·
ควรทำความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับยาแต่ละชนิดที่น้องทาน
และผลข้างเคียงของการให้ยา เพื่อสังเกตอาการกรณีแพ้ยา หรือ ได้รับยาเกินขนาดได้ (กรณีเจ้าของหลายคน
อาจป้อนยาซ้ำซ้อนกัน)
·
การตรวจประเมินผลหลังให้ยา ในการนัดหมายแต่ละครั้ง ควรนำยาที่เหลือทั้งหมดมาด้วย
เพื่อตรวจสอบดูว่าน้องได้รับยาครบหรือเปล่า หรือ กรณีน้องมีอาการทรุดลงหรือไม่คงที่
ไม่ทานอาหาร เราเลยไม่ได้ให้น้องกินยา อาจต้องทำสมุดบันทึกด้วย
และแจ้งให้สัตวแพทย์ทราบ
·
ทำกาตรวจเลือดเป็นระยะ เพื่อเฝ้าระวังการทำงานของตับ ไต และเกลือแร่
(เช่น โพแทสเซียม) กรณีได้รับยาเป็นเวลานานๆ
อาหารสำหรับโรคหัวใจ
·
การลดปริมาณเกลือในอาหารเป็นคำแนะนำที่ต้องทำ
เพราะมีโอกาสเกิดการคั่งของเกลือและน้ำในร่างกายได้ง่าย
·
อาหารตามท้องตลาดทั่วไป หรือ อาหารคนมักมีเกลือสูง
ควรปรุงเอง เพื่อจำกัดการใส่เกลือ น้ำปลา หรือ ซีอิ้ว
·
แต่อาหารเฉพาะโรคทั่วไป จะมีการจำกัดปริมาณเกลืออย่างเข้มงวดอยู่แล้ว
การออกกำลังกาย
การที่สัตว์มีอาการเหนื่อยง่ายเมื่อออกกำลังกายเป็นอาการหนึ่งของภาวะหัวใจล้มเหลว
ควรออกกำลังกายปานกลางและสม่ำเสมอเพื่อให้เกิดการปรับการทำงานของหัวใจ ไม่จำเป็นต้องถึงกับงดการออกกำลังกายเลย แต่ไม่ควรบังคับ
และหากพบอาการเป็นลมควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันที