ช่วงนี้หน้าฝนหลายบ้านอาจจะเจอปัญหามามีสัตว์ร้ายเยอะมากขึ้น และบางตัวอาจมาทำร้ายลูก ๆ ของเราได้ สัตว์ร้ายเหล่านั้น ได้แก่ พวกงู นั่นเอง
แต่ถ้าน้องหมาของเราโดนงูกัดแล้วเราจะต้องทำอย่างไรดี ??
จะรู้ได้ไงว่างูที่กัดเป็นงูมีพิษหรือไม่ ก่อนอื่น เราสามารถแยกรอยเขี้ยวก่อนว่าเป็นงูพิษ หรืองูไม่มีพิษ ได้ง่าย ๆ จากการดูลักษณะแผล ถ้างูพิษจะเจอรอยเขี้ยวเป็นรู 2 รู แต่ถ้างูไม่มีพิษจะเป็นรอยฟันคล้ายฟันฉลาม
แต่อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะงูพิษงูไม่พิษ น้ำลายงูนั้นสกปรก หากเจ้าหมาถูกฝังรอยรักเข้าให้แล้ว ควรพาไปพบสัตวแพทย์ เพื่อล้างแผลและรับยาฆ่าเชื้อค่ะ
ชนิดของพิษงูที่พบได้หลักๆในประเทศไทย ได้แก่
1. พิษงูที่ออกฤทธิ์ต่อระบบเลือด (Hematotoxin) :: เป็นพิษงูที่จะทำให้เลือดเกิดการแข็งตัวยาก ใครโดนกัดก็จะทำให้เลือดไหลไม่หยุด และอาจทำให้เสียเลือดจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ถ้าได้รับเซรุ่มไม่ทัน
>>> งูที่พบได้บ่อยในประเทศไทยได้แก่ งูเขียวหางไหม้ และงูกะปะ
2. พิษงูที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท (Neurotoxin) :: เป็นพิษงูที่ส่งผลต่อรอยต่อของปลายประสาทกับมัดกล้ามเนื้อต่าง ๆ ของร่างกาย เมื่อโดนพิษนี้ จะทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง ซึ่งสิ่งที่น่ากังวลที่สุดคือการที่พิษไปทำให้กล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับการหายใจไม่ทำงาน ทำให้สัตว์ไม่สามารถหายใจเองได้บางรายได้รับเซรุ่มไม่ทัน อาจทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้
>>> งูกลุ่มนี้ที่พบได้บ่อยในประเทศไทย ได้แก่ งูเห่า งูจงอาง งูทับสมิงคลา และงูสามเหลี่ยม
3. พิษงูที่ออกฤทธิ์ต่อกล้ามเนื้อ (Myotoxin) ทำให้เจ็บปวดกล้ามเนื้ออย่างรุนแรง
>>> งูกลุ่มนี้ที่พบได้คืองูทะเล
หากลูก ๆ ใครโดนฉกแล้ว รีบพาไปหาหมอๆกันนะคะ ก่อนจะไม่ทันการ !!!
*ขอบคุณภาพจาก wikipedia
บทความโดย
สพ.ญ.ภณิดา เมฆโสภาวรรณกุล (หมอออย)