อาหารสัตว์แต่ละเกรด ต่างกันอย่างไร
อาหารสัตว์เกรดมาตรฐาน (Economic Grade หรือ Standard Grade)
เป็นเกรดที่พบได้บ่อย ราคาไม่แพง วางขายอยู่ทั่วไป หาซื้อง่าย ผลิตโดยโรงงานที่มีมาตรฐานและได้รับการรับรองจากกรมปศุสัตว์ วัตถุดิบที่ใช้ส่วนใหญ่มาจากผลพลอยได้จากสัตว์ชนิดต่างๆ เช่น เศษเนื้อไก่, เศษเนื้อวัว, กระดูก, เครื่องใน, ขน, หงอน เป็นต้น ซึ่งไม่ได้เป็นเนื้อสัตว์ล้วนๆ นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของธัญพืชอื่นๆ เช่น ข้าวโพด, ข้าวสาลี, ข้าวเจ้า, ถั่วเหลือง เป็นต้น และอาจมีการเสริมวิตามิน แร่ธาตุ กรดอะมิโน เอนไซม์ สารถนอมคุณภาพอาหารสัตว์ สารแต่งกลิ่น-รส สารให้สี ฯลฯ ลงไปเพื่อเพิ่มให้อาหารมีคุณภาพที่ดีขึ้น
อาหารสัตว์เกรดพรีเมี่ยม (Premium Grade)
เกรดนี้จะมีการใช้วัตถุดิบในการผลิตที่มีคุณภาพสูงกว่าเกรดมาตรฐาน ทำให้มีราคาสูงกว่า แต่ก็ยังพบการนำเอาพืชจำพวกข้าวโพด ข้าวสาลี และผลพลอยได้จากสัตว์มาใช้เป็นส่วนผสมอยู่บ้าง บางแบรนด์ยังมีส่วนประกอบของโซเดียมอยู่ แต่ก็นับว่าน้อยกว่า Standard Grade มีการแยกออกมาเป็นสูตร ที่เหมาะสำหรับสัตว์เลี้ยงแบบต่าง ๆ เช่น สูตรสำหรับสัตว์เลี้ยงระบบปิด (Indoor) สูตรกำจัดก้อนขน (Hair ball) สูตรสำหรับสัตว์เป็นโรคไต หรือสูตรบำรุงขน สูตรดูแลระบบย่อยอาหาร สูตรสำหรับแมวทำหมัน สูตรสำหรับดูแลสุขภาพทางเดินปัสสาวะ สูตรสำหรับสัตว์เลี้ยงสูงวัย เป็นต้น
อาหารสัตว์เกรดซุปเปอร์พรีเมี่ยม (Super Premium Grade)
วัตถุดิบที่ใช้จะมีคุณภาพดีกว่าเกรด Premium เล็กน้อย ซึ่งจะไม่ใช้วัตถุดิบที่เหลือจากการเกษตร เนื้อสัตว์ที่นิยมนำมาใช้ คือ เนื้อไก่มาเป็นส่วนผสมหลัก นอกจากนี้ มีการใช้แร่ธาตุที่สังเคราะห์แล้วทำให้ดูดซึมง่ายและเพิ่มกรดไขมันที่ดี เพื่อช่วยให้สุขภาพสัตว์เลี้ยงของเราแข็งแรงจึงลดโอกาสในการเจ็บป่วย
อาหารสัตว์เกรดโฮลิสติก (Holistic Grade)
ปัจจุบันได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะดีต่อสุขภาพสัตว์เลี้ยงในระยะยาว แต่ก็มีราคาที่แพงขึ้นมาพอสมควร เพราะเป็นอาหารที่ใช้วัตถุดิบคุณภาพเดียวกับอาหารคน คือ เป็นอาหารธรรมชาติ ไร้สารเคมี 100% มีการวิเคราะห์สารอาหารที่จำเป็นสำหรับสัตว์เลี้ยงอย่างละเอียด เช่น โปรตีนจากเนื้อไก่ แกะ ปลาเเซลมอน และเนื้อเป็ด ฯลฯ ซึ่งเป็นโปรตีนที่ย่อยง่ายและมีไขมันต่ำ ไม่ใส่วัตถุกันเสียที่ทำให้สัตว์เลี้ยงเกิดอาการแพ้ ที่มีผลข้างเคียงทำให้ขนร่วงหรือท้องเสีย มีคุณค่าทางอาหารสูงกว่าแบบ Premium และ Super Premium เนื่องจากเป็นอาหารปลอดสารเคมี มีกรดอะมิโน ไขมันดี วิตามิน น้ำมันตับปลา แร่ธาตุ โพรไบโอติกส์ ซึ่งสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ ถูกคัดสรรมาอย่างดีเพื่อให้ตรงกับ ความต้องการของสัตว์เลี้ยงมากที่สุด
อาหารสัตว์เกรดอัลตร้าโฮลิสติก (Ultra Holistic Grade)
จะมีความใกล้เคียงกับเกรดโฮลิสติก แต่ใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพดีกว่า มีสัดส่วนโปรตีนจากเนื้อสัตว์สูง ไม่ใช้ผลพลอยได้จากสัตว์และธัญพืชเป็นส่วนผสม มีวัตถุดิบส่วนที่คัดมาแล้วว่า มีคุณค่ามากที่สุด
อาหารสัตว์เกรดเกรนฟรี (Grain Free)
เป็นเกรดที่พัฒนาต่อยอดมาอีกขั้นหนึ่ง โดยจะยังคงใช้ส่วนผสมที่เป็นวัตถุดิบคุณภาพเดียวกับอาหารคน ไม่มีส่วนผสมของธัญพืช 100% ส่วนใหญ่อาหารเกรดนี้ จะใช้ถั่วและมันฝรั่งเป็นหลัก เพื่อป้องกันปัญหาด้านการย่อย แพ้อาหาร หรือปัญหาอื่น ๆ เน้นส่วนผสมที่มีโปรตีนและไขมันเยอะ เสริมด้วยผักผลไม้เพื่อเป็นกากใยช่วยให้ระบบขับถ่าย แทนใยอาหารจากธัญพืช อาหารเกรดนี้จึงเป็นอาหารที่มีคุณภาพสูง ทำให้มีราคาสูงที่สุดในบรรดาอาหารสัตว์ทุกเกรดในท้องตลาด
อาหารสัตว์เลี้ยงแบบไหนที่เหมาะสมที่สุด
ในช่วงกรกฏาคม ปี 2018 สมาคมอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (American Food and Drug Administration, FDA) รายงานว่า อาหารเม็ดสุนัขโดยเฉพาะที่ปราศจากธัญพืชนั้น มีความสัมพันธ์กับโรคกล้ามเนื้อหัวใจขยายใหญ่ผิดปกติ (Dilated Cardiomyopathy, DCM) ในสุนัข พบการเกิดร่วมกันมากขึ้นในพันธุ์อื่นๆ ที่ไม่ใช่สายพันธุ์โน้มนำของโรคดังกล่าวด้วย (สายพันธุ์โน้มนำของโรค ได้แก่ Great Danes, Boxers หรือ Doberman pinschers เป็นต้น) ซึ่งเมื่อตามข้อมูลย้อนหลังดูจะมีความเชื่อมโยงกับชนิดของอาหารที่สัตว์ป่วยกิน ถึงแม้ว่าจะยังต้องการทำการวิจัยและตรวจสอบเพิ่มเติม แต่ก็ทําให้เกิดความโกลาหลในหมู่เจ้าของสัตว์เลี้ยง และร้านขายสัตว์เลี้ยง
ความแตกต่างที่สําคัญระหว่างอาหารสัตว์เลี้ยง grain-free และอาหารสัตว์เลี้ยงที่มีส่วนผสมของธัญพืช คือส่วนผสมของอาหารสัตว์เลี้ยงที่ปราศจากธัญพืชส่วนใหญ่ประกอบด้วย มันเทศ มันฝรั่ง พืชตระกูลถั่วที่มีทั้งถั่วลูกไก่ และถั่วเลนทิล โดยเทรนด์นี้มาจากทฤษฎีที่ว่า "สุนัขเป็นสัตว์กินเนื้อ เพราะงั้นพวกเขาไม่ควรได้รับคาร์โบไฮเดรตจากธัญพืช" อย่างไรก็ตาม อาหารสัตว์เลี้ยงที่ปราศจากธัญพืช ได้ผ่านการตรวจสอบจาก Food and Drug Administration (FDA) ซึ่งอาจตั้งสมมติฐานได้ว่า พืชตระกูลถั่วถูกใช้เพื่อช่วยเสริมปริมาณโปรตีนทั้งหมด แต่ยังคงขาดปริมาณกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อสัตว์ และนอกจากนั้นพืชตระกูลถั่วอาจมีสารต้านโภชนาการ หรือแอนติเจนบางอย่างที่ขัดขวางต่อการดูดซึมสารอาหารของสุนัข ส่วนการขาดกรดอะมิโน "ทอรีน" จะขึ้นอยู่กับความแตกต่างของสายพันธุ์ อีกทั้งยังเป็นอาการของ DCM อีกด้วย ดังนั้นความสัมพันธ์ของอาหารสุนัขจากพืชตระกูลถั่วที่ปราศจากธัญพืช กับสุนัขที่เป็น DCM นั้นจำเป็นต้องมีการศึกษาสำรวจเพิ่มเติมในอนาคต
ย้อนกลับ